Tuesday, March 3, 2009

เตือนสาวไทยระวังมีผัวฝรั่งน้ำตาจะเช็ดหัวเข่า



เตือนสาวไทยระวังมีผัวฝรั่งน้ำตาจะเช็ดหัวเข่า
ครอบครัวของสามีกดขี่ข่มเหงเสมือนทาส และถูกทอดทิ้งอย่างไม่เหลียวแล
หลายสัปดาห์ติดต่อกัน ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 1 เม.ย. ว่า จากการเปิดเผยของ
นายนิยม วัฒน์ธรรมาวุธ ผอ.กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ว่า ปัจจุบันมีผู้หญิงไทยที่ตกลงปลงใจแต่งงาน
กับชาวต่างชาติมากขึ้น โดยมีความเชื่อหรือความหวังว่าเมื่อได้แต่งงาน
กับฝรั่งจะมีชีวิตและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น แถมยังมีเงินมาช่วยทางบ้านได้อีกด้วย
แต่ในความเป็นจริงแล้วอาจไม่เป็นเช่นนั้น จากรายงานที่ได้รับผู้หญิงไทยส่วนมาก
หลังจากแต่งงานกับชาวต่างชาติ แล้วเดินทางไปอาศัยอยู่ในบ้านเมืองของเขา
ไม่นานจะถูกเอารัดเอาเปรียบ และตกเป็นเครื่องมือแสวงหาผลประโยชน์ต่างๆนานา
เช่น ต้องคอยรับใช้ปรนนิบัติสามีและครอบครัวประหนึ่งนางทาสในบ้าน
เงินทองที่คาดว่าจะได้เป็นกอบเป็นกำก็ไม่ได้อย่างที่หวัง สุดท้ายเมื่อสามีเกิดความเบื่อหน่าย
ก็จะโดนทอดทิ้งอย่างไม่สนใจใยดี พฤติกรรมเช่นนี้โดยมากจะเป็นชาวสวีเดน ,เยอรมัน
ซึ่งเป็นประเทศที่หญิงไทยนิยมแต่งงานมากที่สุดอีกประเทศหนึ่ง
นาย นิยม กล่าวอีกว่า การที่หญิงไทยนิยมแต่งงานกับชาวต่างชาติ มากขึ้น เพราะมีชาวต่างชาติรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ดำเนินธุรกิจเป็นตัวกลางติดต่อให้สาวไทยนำประวัติของตัวเองใส่ลงอินเตอร์ เน็ต ถ้าผู้หญิงคนไหนสนใจนำประวัติและข้อมูลของตัวเองลงอินเตอร์เน็ตจะต้องเสีย เงินคนละ 3,000-3,500 บาท และต้องเสียเพิ่มทันทีอีก 3,000-3,500 บาท เมื่อมีการติดต่อกลับมา จากรายงานคนไทยราว 2 พันคน ที่ยื่นขอย้ายถิ่นฐานไปอยู่ในต่างประเทศเมื่อปี 2546 ปรากฏว่าร้อยละ 80 เป็นผู้หญิง และส่วนใหญ่พบกับสามีในช่วงที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย

ผอ. กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กล่าวว่า เวลานี้สถานทูตไทยในกรุงสตอกโฮล์ม จะได้รับโทรศัพท์จากหญิงไทยเป็นจำนวนมาก แต่ละคนมีปัญหาคล้ายๆกัน คือถูกสามีและครอบครัวของสามีกดขี่ข่มเหงเสมือนทาส และถูกทอดทิ้งอย่างไม่เหลียวแลหลายสัปดาห์ติดต่อกัน บางคนต้องหอบลูกหนีมาอาศัยบ้านสตรีฉุกเฉินในสวีเดนเพื่อขอเดินทางกลับประเทศ ไทย ทั้งนี้ ยังทราบข้อมูลจากสหพันธ์ช่วยเหลือสตรีฉุกเฉินแห่งชาติ บ้านพักสตรีฉุกเฉิน ทั้ง 22 แห่งของสวีเดนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีการดูแลผู้หญิงที่ตกอยู่ในสภาพดังกล่าวนี้เป็นจำนวนมาก และบางรายถูกนำเข้ามาภายในประเทศจากผู้ชายคนเดียวกัน


สำหรับ ผู้หญิงไทยที่นิยมแต่งงานกับชาวต่างชาติมากที่สุด ส่วนมากเป็นผู้หญิงแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะมีพื้นฐานความรู้ที่น้อยและไม่มีความรู้ในเรื่องของภาษาอังกฤษ หรือภาษาท้องถิ่น ทำให้ต้องพึ่งสามีเป็นเสาหลัก เมื่อสามีทอดทิ้งทำให้ประสบปัญหาเกี่ยวกับ การดำรงชีวิตเป็นอย่างมาก จึงอยากเตือนผู้หญิงไทยทุกคน ที่มีความคิดอยากแต่งงานกับชาวต่างชาติ ขอให้ตรวจสอบและไตร่ตรองให้ดี ก่อนที่จะตกลงปลงใจไปใช้ชีวิตในต่างแดน




http://tnews.teenee.com/crime/img6/46126.jpg

"พ่อเลี้ยงบุกห้องนอนข่มขืน ขู่ฆ่าหากบอกใคร"

เมื่อ เวลา 01.00 น. วันที่ 5 มี.ค. ขณะพ.ต.ท.อนันต์ ธรรมชัยกุล พนักงานสอบสวน สภ.ต.พัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก นางน้อย วาดงูเหลือม อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 138/98 ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จูงมือลูกสาวทราบชื่อ น.ส.อ้อย (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ปัจจุบันไม่ได้เรียนหนังสือ พร้อมกับให้การว่า น.ส.อ้อย (นามสมมติ) ลูกสาว ถูกสามีชาวต่างชาติมีศักดิ์เป็นพ่อเลี้ยงข่มขืนกระทำชำเรา เหตุเกิดในบ้านพักเลขที่ 138/98 ม.10 ซอยบัวขาว ต.หนองปรือ อ.บางละมุง

สอบ สวนน.ส.อ้อย ให้การว่า เมื่อคืนวันที่ 3 มี.ค.ขณะกำลังอยู่ในบ้านพักกับพ่อเลี้ยง คือ นายมิลส์ เลสลี้ อายุ 58 ปี สัญชาติอังกฤษ ตามลำพังเพียง 2 คน ส่วนแม่ออกไปดื่มสุรากับเพื่อนๆ ในผับแห่งหนึ่งย่านพัทยาใต้ ต่อมาพ่อเลี้ยงชาวต่างชาติฉวยโอกาสย่องเข้ามาในห้องนอน แล้วใช้กำลังปลุกปล้ำข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง พร้อมทั้งขู่ว่าห้ามไปบอกแม่ หรือบอกใครให้รู้ มิฉะนั้นจะฆ่าให้ตาย ด้วยความกลัวประกอบกับเกรงว่าแม่จะเสียใจภายหลัง จึงหนีออกจากบ้านกระทั่งก่อนเข้าแจ้งความได้โทรศัพท์หาแม่และเล่าความจริง ทั้งหมดให้ฟัง


"เค้นจนยอมบอกโดนพ่อเลี้ยงข่มขืน"

นาง น้อย เล่าว่า อยู่กินฉันสามีภรรยากับนายมิลส์ เลสลี้ นานกว่า 5 ปีแล้ว ซึ่งในวันเกิดเหตุตนไม่อยู่บ้าน ปล่อยให้ลูกสาวอยู่บ้านตามลำพัง อีกทั้งไว้ใจว่าสามีชาวเมืองผู้ดีจะดูแลลูกสาวได้ จนกระทั่งกลับมาพบว่าลูกสาวไม่อยู่บ้าน จึงออกตามหาจนได้รับโทรศัพท์จากลูกสาวว่าหนีไปอยู่กับเพื่อน จึงรีบเดินทางไปหา พบว่าอยู่ในอาการซึมเศร้าผิดสังเกต จึงซักจนลูกสาวมาเล่าความจริงให้ฟังว่าถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนภายในบ้าน จนต้องหนีออกมาหลบอยู่กับเพื่อน เพราะอายและกลัวว่าพ่อเลี้ยงจะทำร้าย ตนจึงพาลูกสาวไปถามต่อหน้าสามี ซึ่งสามีก็ยอมรับว่าได้ข่มขืนลูกเลี้ยงจริง จึงพาตัวลูกสาวเข้าแจ้งความดังกล่าว

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผย ว่า เบื้องต้นส่งตัวน.ส.อ้อย ไปตรวจหาร่องรอยการข่มขืนที่ร.พ.บางละมุง และจะได้ติดตามตัวพ่อเลี้ยงต่างชาติรายนี้มาเพื่อสอบสวนและดำเนินการตาม กฎหมายต่อไป


จากหนังสือพิมพ์ข่าวสด...







ตุ๋นสาวไทยแต่งกับฝรั่ง-อยู่ด้วย15วันหนี

หลอกสาวหนองคายให้แต่งงานกับหนุ่มกรีก อ้างจะสร้างบ้านใหม่ ซื้อรถยนต์ปลดหนี้ให้

สุด ท้ายเสียทั้งเงิน เสียตัว หนุ่มกรีกหนีกลับประเทศลอยนวล เผยสาวใหญ่อ้างน้องของสามีที่เป็นชาวกรีกอยากมีเมียคนไทย จะแต่งงานด้วยแต่ห้ามเรียกสินสอดทองหมั้น จัดงานแต่งงานใหญ่โต และไปอยู่ด้วยกัน 15 วัน จนหนุ่มกรีกกลับประเทศจึงรู้ว่าถูกหลอก เพราะไม่เคยได้เงินแม้แต่บาทเดียว แถมยังเสียตัวไปแล้ว ตร.เตือนสาวที่อยากมีสามีฝรั่งระวังถูกหลอก เพราะแก๊งนี้ลวงมาแล้วหลายราย

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 ม.ค. พ.ต.ท.เนรมิตร นนสะเกตุ สารวัตรเวรสภ.เมืองหนองคาย

รับ แจ้งจาก ญาติของน.ส.นุช (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ว่า ถูกนางพวงเพชร บานเย็น อายุ 43 ปี กับสามีชาวต่างชาติ หลอกลวงให้ลูกสาวแต่งงานกับฝรั่งแล้วหลับนอนด้วย จากนั้นหลบหนีไป ญาติของน.ส.นุชให้การว่า นางพวงเพชรซึ่งเป็นญาติกัน มีสามีชาวต่างชาติ ชื่อนายนิโคร ไม่ทราบนามสกุล ชาวกรีก และนายนิโครมีน้องชายชื่อ นายลีนอส เมื่อปลายปี 2550 นางพวงเพชรบอกว่าต้องการหาแฟนให้นายลีนอส จึงมาทาบทามน.ส.นุช โดยบอก ว่านายลีนอสจะช่วยสร้างบ้านหลังใหม่ ซื้อรถยนต์ และปลดหนี้สินให้ แต่ไม่ให้ตนขอสินสอด ขณะนั้นน.ส.นุชทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ จึง เรียกตัวน.ส.นุชกลับมาให้นายลีนอสดูตัว ปรากฏว่านายลีนอสพึงพอใจ และกำหนดหมั้นหมายกันในวันที่ 2 ธ.ค.2550 แล้วค่อยหาฤกษ์แต่งงานภายหลัง

ญาติของน.ส.นุชกล่าวว่า ต่อมานางพวงเพชรมา บอกว่า ต้องเร่งแต่งงานให้เร็วขึ้น

เพราะ นายลีนอสจะรีบกลับประเทศกรีซ เพื่อไปขายที่ดินนำเงินมาให้น.ส.นุช ตนจึงจัดงานแต่งงานให้น.ส.นุชกับนายลีนอสในวันที่ 3 ธ.ค.2550 มีชาวบ้านมาเป็นสักขีพยานจำนวนมาก ซึ่งนางพวงเพชรบอกว่าจะนำเงินสดมาให้ 199,999 บาท เป็นค่าสินสอดในภายหลัง เมื่อเสร็จพิธีแต่งงานในช่วงเช้า ตอนเย็นนางพวงเพชรกับสามีก็มารับตัวน.ส.นุชไปอยู่กินกับนายลีนอสที่บ้านของ นางพวงเพชร เป็นเวลา 15 วัน จากนั้นนางพวงเพชรและสามีก็นำตัวนายลีนอสไปประเทศกรีซ ส่วนน.ส.นุชจึงกลับมาอยู่กับครอบครัว

ญาติของน.ส.นุชให้การต่อว่า เมื่อนายลีนอสกลับไปแล้ว ได้ส่งข้อความเข้าโทรศัพท์มือถือน.ส.นุชบอกว่า

ตั้งแต่ ก่อนแต่งงานกับน.ส.นุชหมดเงินไปแล้ว 4 แสนบาท พวกตนจึงเอะใจว่าเงินอยู่ไหน ไม่เคยได้เงินเลยแม้แต่บาทเดียว ค่าจัดงานแต่งงานพวกตนก็จ่ายทั้งหมด ต่อมาต้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา นางพวงเพชรกับสามีก็มาที่บ้าน บอกว่านายลีนอสอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ขอให้น.ส.นุชไปหา แต่เมื่อไปถึงกลับไม่ปรากฏชื่อของนายลินอสจองห้องพักแต่อย่างใด น.ส.นุชจึงกลับจ.หนองคายมาเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง จึงเชื่อว่าถูกนางพวงเพชรหลอกลวงแน่นอน

ซึ่งการกระทำดังกล่าวของนางพวงเพชรได้สร้างความเสียหาย เสียชื่อเสียง

และ ทำให้ลูกสาวอับอายและเสียความบริสุทธิ์ไปอย่างไม่สามารถทดแทนได้ จึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยังทราบจากชาวบ้านหมู่บ้านอื่นว่า เคยถูกนางพวงเพชรหลอกลวงเช่นเดียวกัน โดยหาชาวต่างชาติมาหลอกแต่งงานกับลูกสาว อ้างว่าจะมาสร้างบ้านหลังใหญ่ ซื้อรถยนต์ให้ โดยให้ฝ่ายหญิงเป็นผู้ออกเงินจัดงาน เมื่อได้หลับนอนกับฝ่ายหญิงแล้วก็หายตัวไป

พ.ต.อ.จักกฤษณ์ จันทรรัตน์ ผกก.สภ.เมืองหนองคาย กล่าวว่า

เหตุการณ์ นี้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้กับหญิงสาวที่ต้องการมีสามีชาวต่างชาติ ขณะนี้พบว่ามีแก๊งหลอกลวงหญิงสาวให้มาแต่งงานกับชาวต่างชาติในพื้นที่จ. หนองคายแล้วหลายราย ใครหลงเชื่อก็ต้องเสียทั้งตัว เสียทั้งเงิน และยังอับอายอีก แต่ก็เป็นการยากที่จะห้ามปราม เพราะยังมีค่านิยมที่ต้องการให้ลูกสาวได้สามีชาวต่างชาติ เนื่องจากหวังว่าจะมีฐานะดีขึ้น มีรายได้ มีบ้านหลังใหญ่ มีรถยนต์ขับ จึงเตือนว่าหากต้องการให้ลูกสาวมีสามีชาวต่างชาติ ให้สังเกตพฤติกรรมและตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด ก่อนตัดสินใจ


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด









มีอีกหลายร้อยตัวอย่าง ที่มากเกินจะหยิบยกได้ ไม่ว่าชาติไหน ๆ
มีดีชั่วปะปนกันไปหมด

ถ้าเกิดมาเป็นคนแล้ว ไม่มีคำว่า ดีที่สุด จงจำไว้เถิด


ที่จะกล่าวเตือนไว้อีกอย่างคือ เดี๊ยวนี้มีแม่เล้าจากที่อื่น เข้ามาโฆษณาชวนเชื่อว่าแต่งงาน
กับชาวต่างชาติแล้วดียังงั้นยังงี้ แท้จริงแล้ว เธอได้ค่าหัวถ้าคุณหลงกับดักหลงกลเธอ
ไปแต่งงานกับชาวต่างชาติที่คุณพูดกับเขาแทบไม่รู้เรื่อง เสียตัว เสียเงิน เสียโง่
ให้ระวังการแต่งงาน การแต่งงานคือที่สุดของความสุขของหญิงอย่างพวกเรา
จงเลือก จงไตร่ตรอง จงคบ ให้ยาวนาน เกินกว่า การต้องการทางเพศสัมพันธ์เพียงอย่างเดียว
หรือเรื่องเงินทอง ต้องให้ค่าที่จิตใจปรากฏจะดีกว่า ...



No comments: